ชุมชนบ้านแม่จอกที่มีอายุนานนับร้อยกว่าปี แม้ชุมชนจะมีการเปลี่ยนความเชื่อจากดั่งเดิม เป็นศาสนาคริสต์ แต่สายสัมพันธ์ของชนเผ่าพื้นเมือง และทรัพยากร ดิน น้ำป่า นั้นไม่เคยเปลี่ยนไป คนในชุมชนยังมีความเชื่อว่าทรัพยากรนั้นมีเจ้าของ เช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทาง พระเจ้า

การอวยพรป่าต้นน้ำของชนเผ่าปกาเกอะญอ บ้านแม่จอก ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

ในวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ตั้งแต่เช้าตรู่ กลุ่มแม่บ้านพ่อบ้าน ต่างมารวมตัวกันเพื่อที่จะไปต่อสายน้ำประปาภูเขาของชุมชนเพื่อมาใช้อุปโภค บริโภคในครัวเรือนของชุมชนบ้านแม่จอก โดยแบ่งกันไปสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งไปขุดดินต่อท่อน้ำและกลบดิน เพื่อไม่ให้ท่อน้ำเกิดไฟไหม้ หากมีไฟป่ามา ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งไปที่หัวน้ำของชุมชน ระยะทางห่างจากชุมชนประมาณ 3 กิโลเมตรที่ต้องเดินเท้าเข้าไป ท่ามกลางป่าเขา สายน้ำแม่จอกหลวงที่ไหลริน มีน้ำตกที่สวยงาม ชาวบ้านกลุ่มที่เดินเข้าไปมั่นใจว่าตรงนั้นเป็นแหล่งน้ำ ไม่มีพื้นที่การทำเกษตรเป็นหัวน้ำของชุมชน จึงช่วยทำฝายกักเก็บน้ำ เพื่อเป็นหัวน้ำประปาภูเขาของชุมชน เมื่อการทำฝายเสร็จสิ้นและมีการต่อท่อน้ำส่งไปชุมชน จากนั้นได้มีการทำสัญลักษณ์ ไม้กางเขน ตามความเชื่อของสาสนาคริสต์ เพื่อให้คนในชุมชนหรือชุมชนใกล้เคียงได้เห็นและเข้าใจ ว่าจุดตรงนี้เป็นหัวน้ำของชุมชนบ้านแม่จอก ที่มีการอนุรักษ์ไว้ ห้ามทำลายหรือทำการใด ๆ ให้เกิดน้ำขุ่น จากนั้นทุกคนให้ผู้อาวุโสอวยพรต้นน้ำของชุมชน

แกนนำบ้านแม่จอก กล่าวว่า “ เราอยู่กับป่ามาเป็นหลายชั่วอายุคน เรามีจารีต เมื่อเรามีการใช้ทรัพยากรในพื้นที่ป่าของเรา โดยการใช้ น้ำ ต้องมีการบอกกล่าว ขอขมา ขอพร อวยพร เพื่อให้น้ำที่ชุมชนใช้นั้นดี มีการใหลตลอดปีเมื่อก่อนเรานับถือความเชื่อดั่งเดิม เชื่อว่าธรรมชาติมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภูตผี ปัจจุบันเรานับถือศานาคริสต์ เราก็เชื่อว่าธรรมชาติเป็นของพระเจ้า เมื่อเราจะใช้ต้องมีการขอเสมอ”

ซึ่งจะเห็นได้ว่าชุมชนชนเผ่าพื้นเมืองนั้นมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้ม มีความผูกพันธ์กับธรรมชาติของชุมชน เมื่อชุมชนจะใช้ทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ชุมชนต้องมีการขอขมา เป็นการสร้างจิตสำนึกในการหวงแหนทรัพยากร เพื่อการดูแลรักษา ทรัพยกรของชุมชน